ถ้าคุณอยากประสบความสำเสร็จ “ต้องเก่ง” พี่กิต Cozy Factory

การเริ่มต้นแรกของพี่กิตOnces up on a time 14 ปีก่อน

ตอนแรกพี่กิตทำบริษัทเกี่ยวกับอุตสาหรรมที่กรุงเทพฯ พี่เริ่มต้นจากแฟนเป็นคนทำก่อนเซ้งร้านกาแฟที่ระยองเป็นร้านซุ้มเล็กๆ แล้วเจ๊ง พี่ก็ย้ายมาลองเปลี่ยนโลเคชั่นมาทำที่อาคารพาณิชย์ ซึ่งมีคนแนะนำมาว่าใกล้ๆ โรงงาน แหล่งอุตสาหกรรม น่าจะทำยอดได้ดี ซึ่งก็พอดีกับธุรกิจที่กรุงเทพฯ ไปได้ไม่สวย จึงพาตัวเองไปอยู่ที่ระยอง

เข้าวงการด้วยการเป็นเด็กส่งกาแฟ
พี่กิตบอกว่า เหมือนคนทำธุรกิจคนนึงที่ไม่มีความรู้ พี่ไม่กินกาแฟ ไม่รู้จักกาแฟเลย พอย้ายสถานที่มาเปิดที่อาคารพาณิชย์  ยอดขายก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่พี่ทำกาแฟไม่เป็น จึงทำได้แค่เป็น Delivery Guy แทนที่จะจ้างพี่วิน เนื่องจากการบริการของพี่วินไม่ค่อยน่าประทับใจกับลูกค้า พี่กิตถือเป็นยุคแรกที่ขาย Delivery หลังจากที่เริ่มทำ Delivery ยอดขายก็ประมาณ 7 หมื่นบาท เดือนต่อมาก็เหยียบแสน โดยรายได้หลักมาจาก Delivery มันทำให้เติบโตขึ้นมาก

ขายได้ขนาดนั้น จะมาเรียนทำไม

พี่กิตมีคำถามกับตัวเองว่า..”แล้วยังไงต่อวะ” จะไปต่อแบบไม่มีความรู้เลยหรอ พี่ขายดี เพราะ ปรุงอร่อย พี่กิตใช้คำว่า “ปรุงอร่อย” คือการชงแบบการปรุง ใส่นม ใส่ไซรัป แต่กลับไม่มีความรู้เลย จึงตัดสินใจไปเรียน ผู้สอนถามว่า “ขายได้ขนาดนั้น จะมาเรียนทำไม” แต่ด้วยความที่พี่กิตไม่หยุดนิ่ง อยากเรียนคั่วกาแฟ จึงเลือกมาเรียน ทั้งที่ยังไม่มีเครื่อง เนื่องจากสมัยก่อนอุปกรณ์แพงมากก

Cozy Factory
พี่กิต เริ่มด้วยการจ้างสถาปนิกออกแบบ แต่โจทย์คือ ออกแบบยังไงก็ได้ ให้พี่กิตทำเองทุกอย่างได้ ซึ่งพี่กิตก็ค่อยๆ ทำร้านด้วยมือตัวเอง จนวันนึง ได้มีเครื่องคั่วเข้ามาในร้าน ไปลงเรียน cupping เพิ่มเติม พร้อมไปกับการซื้อเครื่องชงใหม่ให้มันดีขึ้น เพราะเริ่มใช้ความรู้เข้ามาทำกาแฟ มีเงินเท่าไหร่ก็ลงไปกับร้านหมด คุณไม่สามารถเอาของถูกมาขายของราคาแพงได้ ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญมากๆ กลุ่มลูกค้าจะเปลี่ยนทันที ถ้าคุณเปลี่ยนอุปกรณ์ ให้มันดีขึ้น ต่อมาภาพลักษณ์ของร้านก็ดีขึ้น ก็มีชื่อร้านว่า Cozy Factory

“คุณไม่สามารถเอาของถูกมาขายของราคาแพงได้ ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญมากๆ”
“กลุ่มลูกค้าจะเปลี่ยนทันที ถ้าคุณเปลี่ยนอุปกรณ์ ให้มันดีขึ้น”
ผ่านมาหนึ่งปี พี่กิตเรียน และหาความรู้เกี่ยวกับกาแฟเยอะมากๆ

เกิดเป็นทีม “แม่บูหย่า” 5 โรงคั่ว ในปัจจุบัน
จนวันนึง เพื่อนของพี่ยาว ได้พาลูกค้ามากินกาแฟร้านพี่กิต จึงนำตัวอย่างกาแฟแม่บูหย่าจากไร่พี่พิมพี่ยาว มาให้ชิม แล้วพี่กิตรู้สึกว่าน่าสนใจ จึงอยากรู้ว่า กาแฟเขาทำยังไง เลยมาดูบนดอย พอลงจากดอยก็ไปหาพี่ตี๋ รวมทีม ชวนมาทำกาแฟด้วยกันแล้วก็เริ่มทำการพัฒนาไร่แม่บูหย่าด้วยกัน และทำมาเรื่อยๆ จนเกิดเป็นทีม แม่บูหย่า 5 โรงคั่วในปัจจุบัน

หลักในการทำกาแฟคือ “การคั่ว”
สิ่งที่ทำให้พี่กิตมีจุดหลักในการทำกาแฟคือ “การคั่ว” ด้วยความที่พี่กิตจบวิศวะมา แล้วการคั่วกับวิศวะไปในทิศทางเดียวกันคือเรื่องของฟิสิกส์ ชอบ แต่หลังจากไปเรียนมาแล้วก็ยังไม่เข้าใจยังไม่เก็ต ก็เลยทำการทดลองด้วยตัวเอง แล้วไปทำดูว่ามันเป็นที่ปัจจัยอะไร สูญเสียค่อนข้างเยอะมาก เพราะการทดลอง มันสูญเสียเยอะมาก แต่ก็ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ คั่วไปเรื่อยๆ นำการทดลองมาปรับ จนทุกอย่างเริ่มลงตัว ก็เริ่มคั่วกาแฟขาย เริ่มเอาเครื่องคั่วเข้ามาขาย เริ่มเปิดสอนคั่วเอง

ร้านนี้ทำตามใจตัวเอง 100% ไม่มีกาแฟคั่วเข้มเลยยยย
ปี 2020 โควิด จุดเปลี่ยนอีกครั้งของพี่กิต คือลูกป่วยบ่อยและหาสาเหตุไม่ได้ ด้วยรอบด้านที่มีนิคมอุตสาหกรรม พี่กิตเลยลองย้ายไปอยู่ใกล้ๆ รร.ลูกที่ศรีราชา สวนเสือ เลยคิดว่าอยากทำร้านเล็กๆ ตั้งเป้าไว้แค่ 24 แก้ว ก็อยู่ได้แล้ว แต่พอทำแล้วก็อยากทำให้ดี เลยจ้างคนออกแบบ ชื่อว่า Cozy Factory SS(Smooth&Specailty/Small) ร้านนี้ทำตามใจตัวเอง 100% ใช้แก้ว 12oz ในร้านไม่มีกาแฟคั่วเข้มเลยยยย มีแค่ Med Roast/Med-Light ทำเบลนด์ใหม่ กาแฟใหม่หมด เทสกาแฟ 3 เดือน ทำทุกอย่างตามใจตัวเอง มีเมนูแค่ Black – กาแฟดำ, Brown – กาแฟนม, และเมนูคาราเมลที่ทำเองชื่อว่าเมนูนมชื่อว่า Gold เป็นกาแฟ 3 ตัวหลัก มีมัทฉะ และช็อคโกแลตเลมอนเนท แค่ 6 เมนู แต่กลับกลายเป็นขายได้ เมื่อทำได้แค่เดือนครึ่งก็ต้องจ้างพนักงานแล้ว เพราะเริ่มทำเองไม่ไหวแล้ว เกินคาด โควิทด้วยไม่มี Deliveryด้วย นั่งได้แค่ 6 คน แม้จะร้านเล็กๆ แต่คนกลับชอบ Model Bussiness แบบนี้ จากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาขอเรียน มีมาขอเปิดร้านด้วยเริ่มเป็น consult แล้วก็ขายอุปกรณ์ทุกอย่าง จนเป็นหลักตอนนี้คืองาน consult ตั้งแต่งานก่อสร้าง งานออกแบบทุกอย่าง มันก็ร้านที่ 1-2-3-4-5 จนพี่กิตก็จำไม่ได้แล้ว5555

พี่กิตไม่เคยคิดว่า มีอะไรที่เป็นเรื่องยากเลย พี่กิตไม่ได้ทำตามที่ตัวต้องวางเอาไว้ตายตัว แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แค่มี Goal ไม่ได้บอกว่าต้องเมื่อไหร่ แต่ต้องทำ!จริงๆ พี่กิตยังอยากสอน พี่ชอบการสอนและอยากให้ความรู้ที่ถูกต้อง มากกว่าเน้นการหาเงินหรือข้อมูลที่ไม่จริงในSocail Mediaเยอะมาก พี่กิตยังอยากเรียนรู้เพิ่มเติม เพราะอยากเอาความรู้เล็กที่ห้องเรียน ไปส่งเสริมในการสอน ให้ถูกต้องที่สุด อยากไปในแนวที่ปรึกษา แต่แบรนด์ดิ้งก็จะยังคงทำอยู่ไปเรื่อยๆ
การทำงานมันเป็น Daily life มันประสบความสำเร็จไปเรื่อยๆ ก็เดินไปเรื่อยๆ พี่มีแนวทางชัดเจน เป็นตัวเราแบบชัดเจน

ตั้งใจอยากให้เกษตรกรพัฒนาดีขึ้น
พี่กิต มีแนวทางที่ชัดเจนมากๆ ต้องการให้กาแฟอร่อย ในแบบของมัน ให้มันNatural ที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่กิตเลือกการเลือกสายพันธุ์เพื่อรสชาติของกาแฟมากกว่าการแปรรูป หรือปรุงรสชาติกาแฟ พี่ไม่ต้องการทำกาแฟที่พิเศษมากขนาดนั้น แต่ต้องการทำกาแฟที่ดีแล้วมันต่อเนื่องสม่ำเสมอ มีให้ผลผลิตให้ทุกปี และตั้งใจอยากให้เกษตรกรพัฒนาดีขึ้น เราตั้งใจแบบนั้นจริงๆ แล้วดีขึ้นอย่างสมเหตุสมผล

พี่ว่าธุรกิจกาแฟ จะไปได้อีกไกลไหม?
บ้านเรา ธุรกิจกาแฟ เพิ่งเริ่ม พี่เริ่มมาจาก สมัยกินกาแฟใส่เกลือ พี่เพิ่งเห็นความเจริญเติบโตของกาแฟจริงๆ ช่วง 4 ปีที่แล้ว ก่อนช่วงโควิทไม่นาน โควิดไม่ได้เป็นตัวเร่งให้กาแฟดีขึ้น แต่เป็นตัวที่ทำให้คนเรื่มทำกาแฟมากขึ้นต่างหาก โควิดไม่ได้มีผลต่อการพัฒนากาแฟ

พี่อยากสร้างวัฒนธรรมการกินกาแฟใหม่
เป้าหมายหลักของพี่กิตคือ “พี่อยากสร้างวัฒนธรรมการกินกาแฟใหม่” นี่น่าจะเป็น Passion ที่แรงที่สุดแล้วพี่รู้สึกว่ากินกาแฟ มันต้องครบรส มีเปรี้ยวบ้าง มีหวานบ้าง บอดี้ อาฟเตอร์เทส และกินแบบธรรมชาติของกาแฟจริงๆ ไม่จำเป็นต้องคั่วเข้ม
พี่ยึดตัวเองเป็นหลัก ในการทำธุรกิจ มีแนวทางชัดเจน ขายที่ชอบเท่านั้น ไม่ชอบไม่ขาย พรีเซนต์ตัวเรา อาจจะเติบโตช้ากว่าคนอื่น

เราต้องการสร้างวัฒนธรรมกาแฟใหม่ ให้ทุกคนทำตาม เราจะไม่ทำตามคนอื่น
แต่ละคน มีแนวทางของตัวเอง แต่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน
เราไม่สามารถไปก๊อปการดำเนินชีวิตของคนอื่นได้ เราต้องประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยแนวทางของตัวเอง และถ้าคุณอยากประสบความสำเสร็จ “ต้องเก่ง” ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องเก่งในด้านนั้นๆ
พอเราเก่ง แล้วคนอื่นที่ได้มาเจอตัวตนของเรา แล้วเรามีความรู้จริงๆ เราทำได้ เกิดการเชื่อใจ แล้วก็ไปต่อ…

หลังจากจบบทสนทนากับพี่กิต ทำให้เรารู้สึกถึง Passion ในตัวพี่กิตที่แรงกล้ามากๆ พี่กิตมุ่งมั่นที่จะทำตามความตั้งใจของตัวเองในทางของตัวเองและเรารู้สึกว่า พี่กิตเก่งมากๆ จนเป็นไอดอลและผลักดันให้เป็นแรงบันดาลใจของเราเลยก็ว่าได้

สุดท้ายนี้ สันติพาณิชย์ ขอเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คนที่กำลังทำตามความฝันของตัวเอง มุ่งมั่นและไปถึงความฝันให้ได้นะคะ เราจะเติบโตไปด้วยกันค่ะ