TOPIC
5+1 วิธี Keeping Coffee at Home
โดย : BALL SUTTH
31.05.2020
ในยาม WFH ถ้าจะต้องการกักตุนกาแฟให้ได้นาน ๆ เรามีทางออก วันนี้ Santi Coffee & Roaster ก็มีวิธีการเก็บรักษากาแฟให้สดได้นานที่สุดเอามาฝากเพื่อนพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวสันติกันนะครับ กับ “5+1 วิธี Keeping Coffee at Home By Santi Coffee & Roaster”
ในยาม WFH ถ้าจะต้องการกักตุนกาแฟให้ได้นาน ๆ เรามีทางออก วันนี้ Santi Coffee & Roaster ก็มีวิธีการเก็บรักษากาแฟให้สดได้นานที่สุดเอามาฝากเพื่อนพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวสันติกันนะครับ กับ “5+1 วิธี Keeping Coffee at Home By Santi Coffee & Roaster”
1. เก็บในกล่องที่ป้องกันอากาศ
โดยปกติแล้วถุงกาแฟสันติที่เป็นฟิลเตอร์นั้นจะสามารถเปิดและปิดใหม่ได้จึงสามารถเก็บในถุงได้เลยไม่ต้องใส่กล่อง แต่ถ้าในกรณีที่ถุงไม่มีปากเปิดปิดได้ Santi เราก็แนะนำให้หากล่องสำหรับใส่กาแฟโดยเฉพาะมาใช้เก็บดีกว่า ก็จะทำให้กาแฟของคุณลูกค้านั้นมีอายุที่ยาวนานขึ้นไปอีก
ทำไมกาแฟที่คั่วแล้วจึงกลัวอากาศ หรือออกซิเจนนักหนา เพราะออกซิเจนจะทำปฎิกิริยา oxidation ซึ่งจะทำให้กาแฟที่คั่วแล้วมีกลิ่นหืน ซึ่งจากการศึกษา เมื่อลดปริมาณ ออกซิเจนในหีบห่อที่บรรจุกาแฟลงเหลือ 0.5% จาก 21% พบว่าสามารถยืดอายุของกาแฟได้มากกว่าถึง 20 เท่า ซึ่งจากอีกการศึกษาอีกด้านนึง พบว่า ทุกๆปริมาณออกซิเจนที่เพิ่มขึ้น 1% จะลดอายุของกาแฟลง10% แม้ว่าจะมีออกซิเจนเหลือเพียง 2% ปฎิกิริยา oxidation ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี ดังนั้นยังไงๆกาแฟก็เสื่อมสภาพแหละ แต่ถ้าใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ดีป้องกันอากาศได้ดี กาแฟก็จะเสื่อมสภาพช้าลงกว่าที่ไม่ได้ป้องกัน นะ
2. เก็บไว้ให้ห่างจากรังสี UV
เมล็ดกาแฟคั่วสดกับรังสี UV เป็นของแสลง ดังนั้น แสงแดดหรือดวงไฟบางประเภทจะมีรังสี UV อยู่ด้วย รังสีUV เหล่านี้จะทำให้กาแฟนั้น รสชาติและกลิ่นลดลงเร็วมากเพราะฉะนั้นแนะนำถ้าจะเลือกที่เก็บกาแฟเป็นกล่องแนะนำให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่รังสี UV เข้าไม่ได้นั้นจะดีที่สุดครับ ก็เก็บในถุงฟอยด์ปกติเนี่ยแหละ อย่าเอาออกมาแผ่หราก็พอ (พวกหลอดไฟที่ใช้การปล่อยแสงจากการกระตุ้นก๊าซ จะให้คลื่นแสงช่วงกว้าง จะมี UV แถมมาเล็กน้อย ส่วนหลอดไฟที่เปล่งแสง จากรอยต่อของแข็ง จะไม่มี)
แล้ว รังสี UV มันแสลงกับกาแฟยังไงละ จริงๆรังสี UV ไม่ได้เป็นของแสลงกับแค่กาแฟหรอก เป็นของแสลงกับอาหารทั่วไปด้วย เนื่องจากรังสี UV จะไปเร่งปฏิกิริยา oxidation กับ ไขมัน จะทำให้เกิดกลิ่นหืนไวขึ้น
3. ต้องเก็บให้ห่างจากความร้อน
อุณหภูมิจะส่งส่งผลต่ออายุการเก็บรักษาของกาแฟคั่วทั้งในแง่ของปฎิกิริยาทางเคมีและทางด้านกายภาพ ซึ่งอุณหภูมิที่สูง จะเร่งปฎิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของกาแฟ มีการศึกษา ตามสมการ Arrhenius ถึงระยะเวลาการเสื่อมสภาพของกาแฟที่บดแล้ว พบว่า เมื่อทุกๆอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 10 องศาเซลเซียส จะทำให้อัตราการกาแฟเสื่อมสภาพเพิ่มสูงขึ้นถึง 50% และตามที่กล่าว อุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นไม่ใช่แค่เร่งปฎิกิริยาทางเคมีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเร่งกระบวนการทางกายภาพเช่นอัตราการคลายแก๊ส carbon dioxide และ aroma (VOCs)ของกาแฟคั่ว ซึ่งจากการศึกษาพบว่าทุกๆอณหภูมิที่สูงขึ้น 10 องศาเซลเซียส จะเร่งอัตราการคลายก๊าซมากขึ้น 2 เท่า ซึ่งจะทำให้กลิ่นอันดีงามของกาแฟคั่วสดหายไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกันเมื่อกลิ่นต่างๆหายไปจะทำให้รสชาติต่างๆของกาแฟหายไปด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรเก็บกาแฟไว้ในอุณหภูมิที่ไม่ร้อนจนเกินไป เช่นอุณหภูมิห้องทั่ว ๆ ไปก็จะช่วยให้กาแฟเรานั้นเก็บรสชาติและกลิ่นอันดีงามไว้ได้อีกยาวนาน….(สันติเราแนะนำให้เก็บกาแฟที่อุณหภูมิไม่เกิน 40 องศาเซลเซียสนะจ๊ะ)
แถม..จากการศึกษาพบว่าระดับก๊าซ carbon dioxide มีความสัมพันธ์ต่อความสดใหม่ของการแฟคั่ว เมื่อวัดระดับก๊าซ carbon dioxide ในกาแฟที่เก่าจะพบว่าอยู่ในระดับต่ำมาก
แถมอีกนิด..เมื่อกาแฟคั่วเสร็จและมีการบรรจุงลงถุงแล้ว กาแฟจะมีการคลายก๊าซ carbon dioxide ออกมาเป็นคล้ายๆชั้นบรรยากาศปกคลุมเมล็ดกาแฟไว้ทำให้ยืดอายุของกาแฟคั่วออกไปได้อีก เนื่องจากจะช่วยไม่ให้ก๊าซที่ดีๆของกาแฟสูญเสียไป ซึ่งถุงของเมล็ดกาแฟจึงจำเป็นต้องมี one-way valve เพื่อระบายก๊าซส่วนเกินออกจากถุงไปบ้าง ดังนั้นการบีบถุงกาแฟให้มีลมหรือก๊าซออกมาเพื่อดมกลิ่นทาง valve นั้นจะทำให้กาแฟเสื่อมสภาพไวขึ้นด้วย
.
.
.
ไม่แถมแล้วไปข้ออื่นต่อเลย
4. อย่าแช่กาแฟในตู้เย็น
แหม พอบอกไม่ให้ใกล้ความร้อนก็เอาแช่ตู้เย็นเลยรึ ไม่ควรอย่างยิ่งเลยนะ เพราะว่า การที่เรานำ ไปเก็บไว้ในตู้แช่เย็นที่อุณหภูมิไม่ถึงกับFreezer จะทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์จากอาหารต่างๆที่เราแช่ในตู้เย็น เข้าไปในเมล็ดกาแฟได้ ลองคิดถึงเวลาเรา Brew แล้วได้กลิ่นซุปกิมจิของเถ้าแก่พัคแซรอยที่เราทำตอนกักตุนช่วงเดือนก่อนดูสิ อีกทั้งความชื้นจากจากในตู้เย็นจะเข้าไปในกาแฟอีกด้วย .. อ่าวความชื้นก็น่ากลัวหรอ ทำไมน้อ ไปดูต่อกัน
5. เก็บให้ห่างจากความชื้น
บางท่านอาจจะคิดว่าเราควรนำกาแฟมาอาบน้ำเหมือนน้องแมวของเรามั้ยนะ ขอบอกเลยว่า ไม่ควร เดี๋ยวกาแฟจะข่วนเอา…หยอกๆๆๆ สาระดีกว่า จากการวิจัยถึงความชื้นและWater Activity พบว่ามีความสัมพันธ์ต่อการเสื่อมสภาพของกาแฟ เนื่องจากความชื้นจะช่วยทำให้การเคลื่อนไหวของโมเลกุล มากขึ้นและมีอัตราไวขึ้น จากการศึกษาพบว่าการเก็บรักษากาแฟในสภาพที่มีความชื้นสูง จะทำให้สูญเสียสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย(volatile compounds) ซึ่งจะทำให้อายุการเก็บรักษากาแฟสั้นลง
.
.
.
แถม การคั่วกาแฟในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาจมีการใช้น้ำพรมไปที่กาแฟที่คั่วออกมา เพื่อช่วยในการ cool down กาแฟ ซึ่งหากมีการใช้ปริมาณน้ำที่มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความชื้นหรือไอน้ำในบรรจุภัณฑ์ขึ้นมาได้ ทำให้อายุของกาแฟที่ใช้น้ำช่วย cool down เมล็ดกาแฟ สั้นลง
+1 .เทคนิคแบบล้ำ ๆ หน่อย เก็บกาแฟในช่องแช่แข็ง Freezing coffee
ทางหากคุณต้องการเก็บกาแฟไว้ให้ได้เป็นเวลานานกว่าปกติมากๆเช่น อาจจะอยากรอให้ลูกสาววัยแบเบาะเดินได้ก่อนค่อยนำมากิน…เอ่อนานไป… ให้ใช้วิธีนี้เลยครับแบ่งกาแฟใส่ถุงศูนย์ยากาศ ในปริมาณที่ใช้ต่อครั้งเป็นถุง ๆ ไว้ เช่น 20g. ต่อหนึ่งถุงแล้วนำ ไปแช่ในช่อง Freezer พอเราจะใช้ก็นำ ออกมาเท่าที่เราใช้ในแต่ละครั้ง เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเก็บกาแฟได้นานเป็นเท่าตัวได้แล้วครับ
แต่ท้ายที่สุดแล้วการดื่มกาแฟให้ได้ทุก ๆ วันเพื่อให้กาแฟหมดเร็วขึ้นนั้นก็เป็นวิธีที่ดูจะเรียบง่ายและสบายที่สุดครับ พอหมดแล้วก็อย่างลืมมาสั่งกาแฟจากเรา เพราะคนคั่วอยากคั่วมากครับ….ขอแนะนำกาแฟฟิลเตอร์เด็ดที่สุด ณ เวลานี้ครับ
อ้างอิง SCA The Coffee Freshness Handbook ,THE WORLD ATLAS OF COFFEEE BOOK