Coffee Story: การเดินทางครั้งที่ 1ของปีนี้ ณ ไร่แม่บูหย่า ดอนปางขอน

Process ณ ไร่แม่บู่หยา ดอยปางขอน EP. 1

ลงดอยมารอบนี้ เหมือนได้ไปชาร์จแบต สูดอากาศ​ดีๆอย่างเต็มปอด แต่ก็เหนือความคาดหมายเพราะหนาวมากกกก หนาวปากสั่นเลยปีนี้มีอะไรที่เปลี่ยน​ไปจากปีที่แล้วค่อนข้างเยอะ ทั้งสภาพแวดล้อมและกาแฟ

¦

ในวันแรก เราได้ไปเที่ยวกันนิดหน่อยก่อนขึ้นดอย… เพื่อรอผลกาแฟเชอร์รี่มาตอนช่วงเย็นจนเกือบค่ำเลยเพราะชาวสวนจะเก็บผลกาแฟกลางวันแล้วมาส่งเย็นนั้นทันที ระหว่างที่เรารอชาวสวน เราได้มีโอกาสไปดูแหล่งกำเนิดป่าต้นน้ำมาด้วย ติดไว้ก่อน รอติดตามใน EP.ถัดๆ ไปนะคะ

อ่ะ หลังจากผลกาแฟเชอร์รี่มา เราก็แอบตกใจ เพราะต้องคิดว่าน่าจะต้องคัดค่อนข้างเยอะ ผลกาแฟเเข้าเยอะอยู่นะชาวสวน ทยอยมาส่ง จนแอบคิดในใจว่า พอล๊าววววววว สรุปจบปริมาณที่ประมาณเกือบ 800 โล เยอะมากกกก (ความท้าทายได้เริ่มต้นขึ้นแล้วว 🤣)

​

พี่บอลบอกว่า.. ถ้าผลกาแฟเชอร์รี่ไม่ดี พี่จะผ่าน ไม่ทำ!! แต่พอลองเปิดมาดู มันไปได้ พี่กิต(Cozyfactory)​ บอกให้ลุย

ครั้งนี้เรามี พี่ดาว นักวิจัยกาแฟขึ้นมาเพื่อช่วยควบคุม​คุณภาพ​และประเมิน​กาแฟ ทำให้เรามีที่ปรึกษา​คุณภาพ​อีก 1 คน มาร่วมทีม ทำให้ช่วยกันตัดสินใจได้แบบทีมเวิร์คมากๆ

พวกเราก็เริ่มลอยผลกาแฟเชอร์รี่ด้วยน้ำสะอาด.. จากนั้นล้างด้วยน้ำ KMS (เพื่อทำลายแบคทีเรียและเชื้อรา) แล้วจึงเริ่มคัดผลกาแฟเชอร์รี่ แต่ผลดีเกินคาดนะ ต้องยอมรับว่าผลกาแฟเชอร์รี่ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว​ค่อนข้างมาก ซึ่งจากผลลัพธ์​นี้ เหมือน​เป็น​คำตอบที่บอกเราว่า การที่เราพยายามพัฒนาคุณภาพ​กาแฟ การให้ความรู้​เกษตร​กร ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่​ดีขึ้นจริงๆ​ 😊

แต่เดี๋ยวก่อนนน!!! อย่าเล่นตลกกับฟ้าฝน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้… เราเพิ่งลงผลกาแฟเชอร์รี่ไปได้ 2 กระสอบ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อฝนลงขณะคัดผลกาแฟอยู่​ ทีนี้ทั้งหนาว ทั้งฝน ทั้งลม  สีหน้ากังวลเกิดขึ้นบนหน้าพี่บอลจนเราสังเกต​ได้

พี่บอลต้องตัดสินใจว่า จะไปต่อหรือพอแค่นี้… เนื่องจากพื้นที่ทำงานบนดอยมีค่อนข้างจำกัดเราปล่อยให้ผลกาแฟตากฝนไม่ได้และแน่นอนถ้าเราหยุด ผลกาแฟเชอร์รี่จะเปลี่​ยนแปลงคุณภาพทันทีเมื่อข้ามวัน พี่บอลใช้ประสบการณ์​เพื่อตัดสินใจว่าไปต่อ…!!!

เราทุกคนต้องทำการย้ายผลกาแฟเชอร์รี่​ ไปยังอีกที่นึง ด้วยการขนผลกาแฟเชอร์รี่ที่เหลืออีกหลายกระสอบขึ้นเนินเพื่อที่มีหลังคาเพื่อคัดผลกาแฟ และขนผลกาแฟลงมาห้องด้านล่างเพื่อทำการหมักยีสต์ในห้อง ทั้งหนักและขนกันหลายรอบมากๆ ระหว่างนั้น เราเห็นว่าพี่กิตมุ่งมั่น​มากๆ พี่กิตมั่นใจว่าล็อตนี้ต้องดี คอยดึงพวกเราที่เริ่มอ่อนล้าให้มีกำลังขึ้นมา คอยพูดให้กำลังใจ​พวกเราตลอดเวลา

ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่​ เพื่อ​ให้กาแฟหมักได้ในคืนนี้ เราจะได้ไม่เสียผลกาแฟเชอร์รี่​และเสียเวลาเนื่องจาก ทีมงานบางส่วนต้องกลับลงดอย..ในวันถัดไป เราทุกคนจึงช่วยกันทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

เราแบ่งหน้าที่การทำงานดังนี้

1. 1. การลอยกาแฟ พี่บอลและพี่ดาวจะเป็น​ผู้ที่ตัดสินใจว่าจะลงกาแฟกระสอบไหนบ้าง วางแผนเกี่ยวกับผลกาแฟเชอร์รี่ เพื่อให้ทีมเอาผลกาแฟเชอร์​รี่ไปล้างน้ำสะอาดและล้างด้วยน้ำKMS จากนั้นแบกขึ้นเนินเพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป

2.การคัดเกรดผลกาแฟเชอร์รี่​ เราต้องมาคัดผลไม่สุก และผลที่เสียออกไป ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ผลกาแฟเชอร์รี่​เกือบ 800 กิโล เอาจริงๆ ไม่น้อยเลยนะ. แถมอากาศก็หนาวมาก ลมก็แรงมากด้วย

1. 3. การหมัก.. ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยแรงผู้ชาย เนื่องจากเราจะนำผลกาแฟเชอร์รี่ลงถังหมัก ถังละประมาณ 40 กิโล แล้วนำยีสต์และสารอาหารผสมลงไป แล้วต้องกลิ้งๆ หมุนๆ ถัง เพื่อผสมยีสต์ สารอาหาร และผลกาแฟเชอร์รี่กาแฟให้เข้ากัน จากนั้นก็ไปต่อ

1. 4. เตรียม QC ผลกาแฟเชอร์รี่​วันแรก เราต้องสุ่มตัวอย่างผลกาแฟ​ที่จะนำมาหมัก นำมาวัดค่า อุณหภูมิ​ วัดค่าความหวาน, pH, ทดสอบทางประสาทสัมผัส (กลิ่นและรสชาติ)

ไม่ง่ายเลย กับการทำ Yeast Process พวกเราทุกคน ร่วมมือกัน คุยเล่นกันไป แซวกันไป ผลัดกันไปกินขนม ผิงไฟไปแล้วกลับมาคัดผลกาแฟเชอร์รี่กันต่อ สุดท้าย เราก็ทำสำเร็จ​ เย้!!! เราคัดผลกาแฟเชอร์รี่แล้วลงถังหมักได้ทั้งหมด 19 ถัง

∼

น้ำตาจิไหล เกือบ 5 ทุ่ม