การที่เราจะสร้าง Business นั่นคือเราต้องมีความแตกต่างอย่างมากๆ

การที่เราจะสร้าง Business นั่นคือเราต้องมีความแตกต่างอย่างมากๆ

หนึ่งแนวคิดการสร้างธุรกิจกาแฟที่มากกว่า 10 สาขาของพี่พล CEO ร้าน Nap’s ที่มากกว่า 10 สาขาทั่วประเทศ หลายคนคงสงสัยว่า ก็ร้านกาแฟเหมือนกัน
แล้วจะทำยังไงให้แตกต่างและประสบความสำเร็จ… วันนี้
หยกได้นั่งคุยกับพี่พลแห่งร้าน Nap’s บอกเลยว่า พี่พลเป็นไอดอลอีกคนนึงของหยกเลยก็ว่าได้

ไปค่ะ…เราไปนั่งคุยกับพี่พลกัน

พี่พลเข้าวงการมาได้ยังไงคะเนี่ย?
เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว..ปี 2011 พี่กลับมาจาก Aus หอบเงินกลับมาก้อนนึง ตอนนั้น ยังไม่เคยทำกาแฟ ไม่กิน ไม่รู้จักกาแฟ ก็เริ่มจากการ Survey ก่อนว่ายังมีอะไรที่พอทำได้ที่ทำแล้วจะอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ พี่โฟกัสคำนึง คือคำว่า “ยั่งยืน” อยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่กระแส แล้วก็ทุกอาชีพมันก็ต้องปรับตัวอยู่แล้ว

สมัยที่อยู่ Aus ที่ผ่านร้านกาแฟร้านนึง ซึ่งขายกาแฟแต่ช่วงเช้า ส่วนตอนเย็นเป็น Cocktail bar ซึ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ พี่ประทับใจ มีบาริสต้าคนนึง ที่สามารถจำลูกค้าได้หมดเลย ลค.เดินมาแค่บอกชื่อตัวเอง บาริสต้าก็รู้แล้วว่า คนนี้สั่งเมนูอะไร ก็เราเก็บความทรงจำนี้มาวิเคราะห์ ก็จบมาที่คอนเซ็ปคอฟฟี่แอนด์บาร์ บวกกับร้านกาแฟที่อุบลยังไม่ได้มีเยอะมาก พี่มองกลับมาที่ตัวเองสรุปคือ ไม่เป็นอะไรสักอย่างเลย เลยเริ่มศึกษา you tube แล้วมานั่งเขียน Bussiness plan

โชคดีที่มีตึกอยู่ 2 คูหา ซึ่งเป็นร้าน Audio เก่า ตรงข้ามเป็นร้านอาหารเวียดนามที่ดังมาก แปลว่า ถ้าเราเปิดมาจะต้องมีคนเห็นเรา เพราะร้านนี้ดัง เลยมองว่า กาแฟแหละพี่มีเพื่อนสมัยมัธยมอยู่คนนึง ที่เขามีความฝันอยากเป็นบาร์เทนเดอร์ แล้วมันประสบความสำเร็จจริงๆ เป็นแบรนด์แอมของเครื่องดื่มดังยี่ห้อนึง ได้บินไปต่างประเทศ ไปเทรนนิ่งอบรม…จนเรายอมรับในความแน่วแน่ของมันจนตอนนี้ มีชื่อเสียง แล้วแม่งทำความฝันของมันสำเร็จ เราเลยทักไป ให้มาช่วยเซ็ตร้านช่วยเทรนให้เพิ่ม

จากนั้นก็เริ่มศึกษาหาเครื่องชง เครื่องบด ก็ฝึกทำอยู่ 3-4 เดือน ก็ออกแบบร้านเอง ทำเอง ก่ออิฐเองทั้งหมด เพราะเงินเราไม่ได้มีเยอะ ชื่อร้านว่า “ซาลูน คอฟฟี่”ช่วงแรกพี่ยืนชงกาแฟเองทั้งหมด กับพี่ชาย 2 คน ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนเที่ยงคืน สลับเวรกัน พี่เปิดร้านตอนเช้า พี่ชายเป็นคนปิดร้านที่ทำคอกเทลกลางคืน พอทำบาร์ได้สัก 2ปีกว่าก็เริ่มเหนื่อย

ระหว่างทางก็มีการปรับตัว เริ่มมีคนมาถามว่าอยากทำร้านกาแฟบ้าง ให้เราไปช่วย Set ร้านกาแฟ เราก็เปิดโอกาสให้ตัวเอง
เริ่มมีลูกค้าเป็น consult เริ่มขายอุปกรณ์ มีการซื้อมาขายไป เราก็ทำอะไรก็ได้ที่มันได้เงิน

จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่…
Cycle ที่วนลูป หลังจากพี่เป็น consult พี่ต้องไปเซ็ตอัพร้านอื่นๆ ที่ออสด้วย ที่ไทยด้วย เวลาไม่อยู่ร้าน 3-4 เดือน ทุกครั้งกลับมา ยอดก็จะดิ่งลง พี่ต้องมาบิลต์มันขึ้นไหมแล้วพอไม่อยู่ ก็เอาอีกแล้วดิ่งลงอีก จนวันที่พี่คิดว่า “แล้วยังไงต่อวะ?” มันเริ่มไม่ท้าทายแล้ว มันไม่เติบโตขึ้น จึงมีความคิดอยากคั่วกาแฟ เป็นจุดที่ทำให้เจอทีมแม่บูหย่าพอกลับมา พี่อยากได้เครื่องคั่ว แต่ทุกอย่างไม่เป็นแบบที่คิด พี่อยากไปต่อ พี่อยากพัฒนา พี่มองหาความก้าวหน้า จึงแยกออกมา…เริ่มใหม่ไปหาที่เช่า จนเจอ Nap สาขา1 ในปัจจุบัน

ต้องซื้อเครื่องคั่ว เริ่มจากการเป็นหนี้อีกครั้ง พี่ก็วางแพลนว่าไหว บวกกับ มีออเดอร์ในมือจากร้านที่เราไปเป็น consult ให้ พอเรามาเปิดหน้าร้านอีก มันทำให้เราโตขึ้นแบบก้าวกระโดดมากๆคนเจอเรามากขึ้น พี่เปิดหน้าร้าน 2-3 เดือน พี่ได้ลูกค้าเพิ่มเยอะมาก มันทำให้ชำระหนี้ได้ แต่มันไม่ทำให้ธุรกิจเติบโต พี่ก็อยากเติบโตขึ้นไปอีก ก็เลยไปกู้อีกครั้ง พี่ก็ได้เงินมาอีกก้อนนึง มาปรับปรุงร้านให้ดีขึ้น

มาพูดถึงเรื่องทำเลว่า ทำไมพี่เลือกทำเลตรงนั้น ข้อแรกเลย เราต้องการพื้นที่จอดรถ เยื้องๆ หน่อย มีร้านก๋วยเตี๋ยวขายดี ซึ่งขายดีเป็นช่วงเวลา ช่วงเที่ยง
มันจะต้องมีคนกินก๋วยเตี๋ยวแล้วแวะมาร้านเราบ้างก็จะเห็นเราสักวันนึง มันเป็นที่ รกร้างติดวัด ไม่ดี เสื่อมโทรม ประวัติร้านคือ ใครทำอะไรก็เจ๊ง แต่พี่รู้สึกว่า
“กูต้องการที่แบบนี้แหละ” เงียบๆ ไม่รู้ตอนนั้นรู้สึกอะไร

สิ่งนึงที่พี่คิดคือ เราต้องมีความแตกต่าง พี่เป็นร้านแรก ที่ใช้เครื่องทำน้ำแข็งในอุบล เรา concern เรื่องความสะอาด เครื่องกรองน้ำ น้ำแข็งทำเอง มันทำให้พี่ขายได้แค่วันละ 30-40 แก้วเพราะเครื่องทำน้ำแข็งมีแค่ไหนก็ขายแค่ไหน มันทำให้พี่โดนด่าเยอะมาก พอมันเริ่มมีชื่อเสียง กลุ่มลูกค้าที่ concern เรื่องนี้ เขาก็จะเข้ามาเองเลย พอเขามา อ่าวววหมด ไม่ได้กินพี่ก็เพิ่มเครื่องทำน้ำแข็ง จนตอนนี้ในช่วงพีคไทม์ เช่น เข้าพรรษา เทศกาล สงกรานต์ ปีใหม่ นั่นคือ น้ำแข็งหมด 700 แก้ว นี่คือร้านที่ขายแค่กาแฟอย่างเดียว

สาขาที่สองก็คือ วาริน เลือก Area ที่มีที่จอดรถ ก็อำเภอติดกัน แค่เปิดวันแรกก็คือ หมื่นกว่าบาทเลย ด้วยความที่คนรู้จักอยู่แล้วก็จะต่างจากสาขาแรก แต่พอเรามีชื่อแล้วคอสท์ต่ำมาก ค่าเช่าถูก operate กันเอง ทำให้จัดการง่าย ลงทุนต่ำ พนง.เติบโตมากขึ้น มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น

ตอนนี้มีทั้งหมด 12 สาขาแต่ก็ไม่ใช่ของพี่เองทั้งหมดนะ ที่เป็นของพี่ก็คือสาขาแรก สาขาอื่นก็คือทำ partner เราก็อยากให้พนง.เติบโต ก็คือให้พนง.
ช่วยกันลงทุนด้วยกัน วาง Bussiness plan กัน แล้วก็ช่วยกันทำ

เมื่อก่อนพี่เคยฝันว่า 1จังหวัด 1Nap เท่านั้น แต่พอเสร็จแล้ว อุบลแม่งมี 4 สาขาหว่ะ ขอนแก่น 2 สาขา ด้วยความที่ว่า แต่ละตัวเมื่อมันใหญ่มันก็ไม่จำเป็นแล้ว ถ้ามันมีแล้วมันขายได้มันทำให้ Bussiness อยู่ 30% เลย ถ้ามองในเชิงการลงทุนคือ 3ปีคืนทุน แต่ส่วนมาก็กำไร 60% ทำให้ปีกว่าๆ ก็คืนทุนแล้ว ก็ถือว่าโอเค ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่การบริหารจัดการ หลายๆอย่าง

แต่เกมส์มันจะยากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่พี่ทำมา 6ปี เกมส์มันเเปลี่ยนไปตลอด นั่นหมายความว่า ถ้าเรายัง active อยู่ในเรื่องของการเข้าใจตลาด
เข้าใจการปรับตัวตลอดเวลามันก็ทำให้เรารู้สึกว่ายัง enjoy ตลอดเวลา ดูว่าร้านไปถึงไหนแล้ว ไปดูต่างประเทศบ้างแล้วก็มาปรับตัวกับธุรกิจเรา

พี่จ้างเด็ก ค่อนข้างสูง แล้วให้เด็กได้เติบโต ให้มีส่วนร่วมในการดูแลบริหารร้าน พอเขาได้มีส่วนร่วม เขาก็เลยอยากทำให้มันได้ดี ให้ทุกคนมีตัวตนในร้าน

นิยามของกาแฟของพี่พล
ในอดีตและปัจจุบัน ไม่ต่างกัน กาแฟ คืออะไรก็ได้เครื่องดื่มที่คนชอบ ร้านกาแฟพี่จะเหมือนอาหารตามสั่ง เวลาที่ลูกค้าเดินเข้ามาแล้วคุณได้ ได้รับการบริการยังไง ดีไหมทักทายดีไหมเครื่องดื่มโอเคไหม การที่จะโอเคหรือไม่ เราต้องพูดคุย ถามข้อมูลกับลูกค้าก่อน ทานแบบไหน ชอบแบบไหน ทานเข้ม กลาง เปรี้ยวไม่เปรี้ยว
ยังเป็นการสื่อสารสองทาง two way communication พูดคุยเพื่อดึงข้อมูลจากลูกค้าออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อ Delivery กาแฟให้ตรงใจมากที่สุด
เหมือนเรากินส้มตำ หนูจะกินเผ็ดเลย แต่พี่ดันใส่พริก แล้วแบบนี้ bussiness พี่จะอยู่ยังไง

พี่จะมองความต้องการของ ลค.เป็นหลัก ผสมผสานการพัฒนาและการเติบโตของกาแฟแทรกเข้าไปทีละนิด เช่น ทำไมพี่ถึงทำ Specialty coffee ในราคาที่จับต้องได้เพราะรู้สึกว่าอยากให้ลูกค้า กินกาแฟดีๆ เราก็ทำกาแฟคั่วกลางในราคาคั่วเข้ม ทั้งที่มันแพงกว่า ดีกว่า เพื่อให้เขารู้ว่ากาแฟมันมีทั้ง flavor aftertaste ทำให้มันReasonable price ค่อยๆ Educate ไปเรื่อยๆ ทำให้กลุ่ม Mass ที่เสิร์ฟกาแฟอะไรก็ไม่รู้ อยู่ในช่วงขาลง พี่อยู่ในธุรกิจกาแฟมา 12ปี ช่วงแรกที่ทำ
Specailty coffee มีกลุ่มผู้บริโภคแค่ 5% แต่ตอนนี้พี่เชื่อว่าขยับมาที่ 50% แล้วนะ เป็นขาขึ้น แต่ยังมีคนที่ชื่นชอบกาแฟ Mass อยู่ ทำให้เรายังสามารถให้มันขึ้นไปได้อีก

พี่ไม่เก่งเรื่องธุรกิจเลย พี่ทำงานไป แก้ไขไป ถ้ามันมีโอกาสเข้ามา ก็ต้องมานั่งคิดว่า เราจะพามันไปได้ไหม
………………………………….

เรื่องราวของพี่พลเป็นการเส้นทางของเดินทางสู่การเป็นผู้ประกอบการและการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงบันดาลใจอันมีค่าสำหรับทุกคนที่ต้องการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
1. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เรื่องราวของพี่พลเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับตัวและเปิดรับการเปลี่ยนแปลง ในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทรนด์ต่างๆ มีมาและไป และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาไปตามกาลเวลาและปรับธุรกิจของคุณให้ตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า
2. แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมาก่อน แต่ถ้าคุณมีความกระตือรือร้นและเต็มใจที่จะเรียนรู้ คุณก็ประสบความสำเร็จได้ การเดินทางของพี่พลจากการไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับกาแฟจนกลายเป็นเจ้าของร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จ แสดงให้เห็นถึงพลังของความหลงใหลและความมุ่งมั่น
3. สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้โดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้กับธุรกิจของคุณ ความมุ่งมั่นของพี่พลในเรื่องความสะอาดและน้ำแข็งโฮมเมดทำให้ร้านกาแฟของเขาแตกต่างและดึงดูดลูกค้าที่มองหาคุณภาพและความแตกต่าง….จงหาความแตกต่างที่โดดเด่นของคุณ!
4. การทำงานร่วมกันและความร่วมมือสามารถเป็นเส้นทางสู่การเติบโตได้ ความตั้งใจของพี่พลในการทำงานร่วมกับพันธมิตรและพนักงานในการขยายธุรกิจทำให้เกิดความหลากหลายและการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
5. การเป็นผู้ประกอบการเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีความพากเพียร การเดินทางของพี่พลเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก หนี้สิน และช่วงเวลาแห่งความสงสัย แต่ความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดนำไปสู่การเติบโตและความสำเร็จ
6. ความปรารถนาแรกของพี่พลคือ การมีร้านกาแฟในจังหวัดหนึ่ง แต่เขาขยายไปไกลกว่านั้น เรื่องราวของเขาเน้นย้ำถึงแนวคิดที่ว่าหากคุณมีโมเดลที่ประสบความสำเร็จ คุณสามารถทำซ้ำในสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้างผลกำไร
7. ภูมิทัศน์ทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเรียนรู้และความเข้าใจในตลาดอย่างต่อเนื่องของพี่พลมีความสำคัญต่อความสำเร็จของเขา การติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมและความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตในระยะยาว

การเดินทางของพี่พลจากมือใหม่ในวงการกาแฟสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากร้านกาแฟ Nap’s หลายสาขา แสดงให้เห็นถึงพลังของความมุ่งมั่น ความสามารถในการปรับตัว และความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพสูง เรื่องราวของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าของธุรกิจที่ต้องการฝันใหญ่ ทำงานหนัก และปรับตัวเข้ากับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หวังว่าเรื่องราวของพี่พลจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนที่กำลังก้าวสู่วงการกาแฟและมีความสุขกับการทำงานนะคะ cheer!!