ดริปอย่างไรให้เป็น ☕️ Drip King

วันนี้ Santi Coffee&Roaster มี Trickเล็กๆที่จะทำให้ คุณดริปกาแฟได้อร่อยมากขึ้น และคุณจะเข้าใจ ความเป็น “Drip King” มากขึ้น

ดริปอย่างไรให้เป็น Drip King

1. ใช้เมล็ดกาแฟที่ไม่เก่าเกินไป
การใช้เมล็ดกาแฟที่ไม่เก่าเกินไป จะทำให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟยังคงอยู่มากกว่า ส่วนใหญ่แล้วแนะนำให้ไม่เกิน 1 เดือน เพราะกาแฟจะค่อยๆคลายก๊าซออกมาหลังจากการคั่ว ดังนั้นปัจจัยเรื่องของการคั่วหรือเครื่องที่ใช้ในการคั่วก็มีผลให้กาแฟนั้น มีระยะเวลาที่การคลายก๊าซเร็วช้า ต่างกันอีกด้วย

2. บดกาแฟเท่าที่ใช้เท่านั้น
ตามหลัก SCA Protocol เราไม่ควรบดทิ้งไว้เกิน 15 นาทีการบดกาแฟมันจะทำให้กลิ่นดีๆ อย่างเช่นกลิ่นที่ผลไม้ที่ชัดเจนในเมล็ดกาแฟเหล่านั้นค่อยๆระเหยหายไป เพราะฉะนั้นการบดกาแฟเท่าที่ใช้นั้นจึงทำให้รสชาติ และกลิ่นของกาแฟอยู่ครบมากขึ้น

3. น้ำที่ใช้ดริปมีผลกับรสชาติ
เลือกใช้น้ำให้เหมาะสมกับกาแฟที่เราใช้ น้ำที่TDSต่ำจะทำให้รสชาติกาแฟ Bright มากขึ้นส่วนน้ำที่TDSสูงทำให้รสชาติทึบแต่อาจจะช่วยให้กาแฟหวานขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถเลือกน้ำให้เหมาะสมกับกาแฟแต่ละชนิดซึ่งกาแฟแต่ละชนิดก็อาจจะเหมาะกับน้ำที่แตกต่างกัน

4. เทน้ำวนเป็นรูปก้นหอย
จังหวะการเทน้ำมีส่วนสำคัญมากซึ่งการเทเป็นรูปก้นหอยนั้น มีการวิจัยมาแล้วว่าเป็นธรรมชาติมากที่สุดซึ่งสามารถสกัดได้ทั่วถึงมากที่สุด และเสถียรมากที่สุดซึ่งถ้าคุณดริปเป็นรูปหน้าแฟนก็สามารถทำให้อร่อยได้เช่นกันถ้าคุณมั่นใจว่าคุณเทเหมือนกันทุกครั้ง

5. ตราชั่งที่มีเวลาจะช่วยให้กาแฟอร่อยขึ้น
สิ่งสำคัญที่ทำให้การดริปในครั้งต่อๆไป มีรสชาติที่ดีขึ้นและใกล้เคียงกันได้มากที่สุดคือการดริปที่สามารถชี้วัดได้ว่า เราใช้ Ratioเท่าไร เวลาเท่าไร อุณหภูมิ เท่าไหร่เพราะฉะนั้นเครื่องมือที่ใช้ในการ
บอกตัวเลขเหล่านี้จึงมีความสำคัญ สำหรับการทำให้รสชาติกาแฟอร่อยมากขึ้นเพราะฉะนั้นถึงอุปกรณ์เหล่านี้มันจะแพงแต่เชื่อผมเถอะว่าคุ้มค่า ถ้าตราชั่งไม่มีเวลา จะซื้อนาฬิกา หรือจะทักมาหาแอดมินก็ได้นะจ๊ะ แอดมินมีเวลาให้เสมอ

6. Stir ให้กาแฟมีรสชาติเค้ากัน
โดยปกติแล้วกาแฟที่เราดริปจะถูกแบ่งออกเป็นเซทๆ แต่ละเซทจะมีความเข้มข้นที่แตกต่างกันดังนั้น การStirหรือการขนกาแฟจะทำรสชาติกาแฟเกิดสมดุลที่ดีขึ้น