ดื่มกาแฟอย่างไรดีต่อสุขภาพ

กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และมีการศึกษาอย่างมากมายที่บ่งชี้ถึงประโยชน์ช่วยเสริมสุขภาพได้ หากรู้วิธีดื่มกาแฟที่ถูกต้อง ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักพร้อมคำแนะนำวิธีดื่มกาแฟอย่างไรให้มีประโยชน์มากที่สุด 

การเลือกชนิดของกาแฟก็สำคัญ

ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน เทรนด์ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้การดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ให้ประโยชน์ จึงเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย การเลือกเมล็ดกาแฟและชนิดของกาแฟที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกาแฟแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน อาทิเช่น

1. กาแฟอาราบิกา (Arabica)

กาแฟอาราบิกา เมล็ดกาแฟมีรสชาติหวานและซับซ้อน มักจะมีระดับคาเฟอีนต่ำกว่ากาแฟประเภทอื่นๆ ซึ่งการเลือกกาแฟอาราบิกาสามารถช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดจากการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป เช่น อาการนอนไม่หลับหรือวิตกกังวล ซึ่งรสชาติอาราบิกานุ่มนวลและกลมกล่อม อีกทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทมากเกินไป

2. กาแฟโรบัสต้า (Robusta)

กาแฟโรบัสต้าเป็นกาแฟที่มีคาเฟอีนสูงกว่าเมล็ดกาแฟอาราบิกา มีรสชาติที่เข้มข้นและขมกว่า และคาเฟอีนในกาแฟชนิดนี้อาจทำให้รู้สึกตื่นตัวมากเกินไป หากมีการดื่มกาแฟโรบัสต้าในปริมาณสูง

3. กาแฟคั่วสด (Freshly Roasted Coffee)

การเลือกกาแฟคั่วสด เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากการดื่มกาแฟสูงสุด เพราะกาแฟคั่วสดมีประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยและป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและมะเร็ง เป็นต้น

ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ

การดื่มกาแฟให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ควรเลือกชนิดกาแฟและดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งมีหลักฐานจากการวิจัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันที่แสดงให้เห็นถึงผลดีของกาแฟ เช่น การช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางประเภท หรือการช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญ

1. กาแฟช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

คาเฟอีนในกาแฟสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มความตื่นตัว และทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น การดื่มกาแฟในปริมาณพอดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียนรู้

2. กาแฟช่วยเผาผลาญไขมัน

กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยคาเฟอีนในกาแฟช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันและช่วยลดความอยากอาหาร จึงสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. กาแฟลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด

จากการศึกษาหลายครั้งแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวานประเภท 2 โรคพาร์กินสัน และโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่แสดงว่า การดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ด้วย

4. กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟมีประโยชน์ในการป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ชะลอวัย ช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดและโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

วิธีการดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์

แม้ว่ากาแฟมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ถ้าบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ จึงต้องคำนึงถึงปริมาณและเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟ

1. ดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม

การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะการดื่มกาแฟในช่วงเย็นหรือก่อนนอน เพราะจะทำให้คุณนอนไม่หลับและรู้สึกกระวนกระวาย การดื่มกาแฟในปริมาณ 1-2 แก้วต่อวันถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ

2. เลือกดื่มกาแฟดำ

เนื่องจากน้ำตาลสามารถเพิ่มแคลอรี่ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะอ้วนและโรคเบาหวานได้ แนะนำให้ดื่มกาแฟดำ หรือเลือกใช้สารให้ความหวานที่ดีต่อสุขภาพ เช่น หญ้าหวาน หรือ สตีเวีย แทนน้ำตาล หากต้องการลิ้มรสกาแฟที่หลากหลาย หรือไม่ชอบดื่มกาแฟขม

3. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในตอนเย็น

การดื่มกาแฟในตอนเย็นอาจส่งผลต่อระบบการนอนหลับ เนื่องจากคาเฟอีนสามารถกระตุ้นระบบประสาท ทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวในตอนกลางคืน ทำให้นอนหลับยากหรือมีอาการนอนไม่หลับได้ 

4. เลือกวิธีการชงที่เหมาะสม

การชงกาแฟมีผลต่อสุขภาพ เช่น การเลือกใช้เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ หรือ เครื่องชงกาเเฟดริป จะช่วยให้กาแฟมีรสชาติที่ดี ไม่เกิดสารตกค้างที่อาจมีผลเสียต่อร่างกาย และการเลือกกาแฟสดยังช่วยให้ได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟได้มากกว่าชนิดอื่นๆ

สรุป

การดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ ควรเลือกวิธีการชงกาแฟที่เหมาะสม ใช้กาแฟคุณภาพดี เลือกดื่มกาแฟดำหรือหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลหรือครีมที่มากเกินไป และดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ จะทำให้ได้ประโยชน์ของกาแฟสูงสุด โดยเฉพาะการกระตุ้นสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด และช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เพียงเท่านี้ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับกาแฟแก้วโปรดโดยไม่เสียสุขภาพ